what's new

9 ฟีเจอร์เด่นของ The New MU-X

 

        เทคโนโลยีทุกวันนี้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในเรื่องของความสะดวกสะบายและความปลอดภัย เช่นเดียวกับเทคโนโลยียานยนต์ในปัจจุบัน ทำให้รถยนต์รุ่นใหม่ๆ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นมากมาย วันนี้ What’s New จะมาแนะนำ 9 ฟีเจอร์เด่นของ The New MU-X มาฝากทุกท่านครับ

 


        1. ฝาท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ
        รถรุ่นใหม่ๆ มักมาพร้อมระบบเปิด-ปิดฝาท้ายอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้แรงยกขึ้นหรือกดลง เพียงแค่พกกุญแจแล้วกดปุ่มที่ฝาท้ายหรือรีโมทรถ แต่สำหรับ The New MU-X เรามาพร้อมระบบ Smart Tailgate with Step Sensor เพียงเดินเข้าออกแทนการกดปุ่มที่รถหรือรีโมต สะดวกสบายเมื่อมือไม่ว่างจากการถือสัมภาระ หรือการแกว่งเท้าที่อาจจะทำให้เกิดการเสียการทรงตัว พร้อมระบบ Jam Protection


        2. เทคโนโลยีความปลอดภัย ADAS (Advanced Driver Assistance Systems)
        ปัจจุบันนอกเหนือจากระบบความปลอดภัยพื้นฐานแล้ว ADAS เป็นระบบที่ช่วยให้คนขับรถสามารถขับรถได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น โดยระบบ ADAS ของ The New MU-X เป็นระบบที่ใช้นวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera ทำหน้าที่เสมือนดวงตาอัจฉริยะ คอยตรวจจับเส้นถนนและวัตถุด้านหน้าแบบ Real Time ได้อย่างชัดเจน และแม่นยำกว่ากล้องเดี่ยวแบบ Mono Camera ทำงานพร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน ทำให้เพิ่มระบบความปลอดภัยอีกถึง 12 ระบบ ดังนี้

 

        • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Full Speed Range Adaptive Cruise Control - ACC) พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go ระบบจะควบคุมความเร็วให้คงที่พร้อมตรวจจับรถยนต์ด้านหน้า และจะช่วยควบคุมความเร็ว เพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยโดยอัตโนมัติได้ พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go
        • ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning - FCW) จะตรวจจับสิ่งกีดขวางด้านหน้าเมื่อระยะห่างระหว่างรถกับสิ่งกีดขวางอยู่ในระยะกระชั้นชิดเกินไป และเสี่ยงต่อการชน โดยจะมีแสงไฟเตือนที่กระจกหน้าแสดงคำเตือนบนหน้าจอ MID
        • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking - AEB) เมื่อระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW) เตือนขึ้นแต่ผู้ขับขี่ยังไม่เหยียบเบรก และมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการชนระบบ AEB จะทำงาน เพื่อหลีกเลี่ยงการชน โดยระบบจะแจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบผ่านคำเตือนบนหน้าจอ MID และการส่งเสียงเตือนสั้นซ้ำๆ หลังจากรถหยุดนิ่ง ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติจะยังทำงานต่อเนื่องอีก 2 วินาที และจะยกเลิกการทำงาน ทั้งนี้ระบบจะทำงานเมื่อรถยนต์เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วประมาณ 8-160 กม./ชม.
        • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา (Turn Assist with AEB) ขณะทำการเลี้ยวขวา และเปิดไฟเลี้ยว หากมีรถวิ่งเข้ามาจากเลนสวนในระยะที่เสี่ยงต่อการชน ระบบ AEB จะทำการเบรกอัตโนมัติ เมื่อรถมีความเร็ว 5-18 กม./ชม.
        • ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน (Lane Departure Warning - LDW) ระบบจะช่วยเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบเมื่อรถยนต์ออกนอกเลน เมื่อรถมีความเร็วประมาณ 60-130 กม./ชม. และถนนต้องมีเส้นแบ่งเลนชัดเจน
        • ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam - AHB) กล้องหน้าคู่จะตรวจสอบความสว่างโดยรวม และเปิด-ปิดไฟสูงให้เหมาะสมกับการขับขี่โดยอัตโนมัติ เมื่อความเร็วรถมากกว่า 40 กม./ชม.
        • ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด (Pedal Misapplication Mitigation - PMM) ระบบจะตรวจจับการเหยียบคันเร่ง และสิ่งกีดขวางด้านหน้าด้วยกล้องหน้าคู่ เมื่อพบว่ามีการเหยียบคันเร่งมากเกินไปโดยไม่ได้ตั้งใจด้วยแรงเหยียบเกินกว่า 30% ขณะรถยนต์จอดอยู่ หรือเคลื่อนที่ช้าๆ และกล้องหน้าคู่พบสิ่งกีดขวางด้านหน้ารถยนต์มีระยะห่างน้อยกว่า 4 เมตร ระบบจะตัดการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อป้องกันหรือลดความเสียหายของการชน
        • ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง (Manual Speed Limiter - MSL) ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าความเร็วสูงสุดที่ต้องการให้สอดคล้องกับสภาพถนนในขณะขับขี่ โดยตั้งค่าได้ทั้งในขณะขับรถหรือรถหยุดนิ่ง ให้อยู่ในช่วงความเร็วระหว่าง 30-160 กม./ชม.
        • ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Monitoring - BSM) ขณะขับรถที่ความเร็ว 15 กม./ชม. หากมียานพาหนะอื่นอยู่ในบริเวณจุดอับสายตา ระบบจะตรวจจับด้วยเรดาร์ด้านท้ายรถยนต์
        • ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ (Rear Cross Traffic Alert - RCTA) เมื่อเรดาร์ด้านท้ายรถยนต์ตรวจจับพบว่ามีวัตถุวิ่งผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือน พร้อมไฟกะพริบที่กระจกมองข้าง ทั้งนี้รถยนต์ต้องมีความเร็วไม่เกิน 10 กม./ชม. เกียร์ต้องอยู่ในตำแหน่ง “R”
        • ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ (Parking Aid System) ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายขณะจอดรถยนต์ หรือขับขี่ในเส้นทางแคบ ด้วยเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน ทั้งนี้รถยนต์ต้องมีความเร็วไม่เกิน 10 กม./ชม. และระดับเสียงเตือนจะดัง-เบาตามระยะใกล้-ไกลระหว่างวัตถุกับรถยนต์
        • ระบบเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ (Multi - Collision Brake - MCB) เพื่อลดโอกาสการชนต่อเนื่อง ระบบจะช่วยเบรกอัตโนมัติภายหลังการเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้แอร์แบคทำงาน เพื่อลดความเร็วและแรงเหวี่ยงของรถยนต์หลังการชน

 


        3. Auto Brake Hold
        ปัญหาของคนขับรถในเมือง คือการเผชิญรถติด ต้องเหยียบเบรกเหยียบคันเร่งเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ ยิ่งใครขับเกียร์ธรรมดาละก็ ขาล้ากันไปเลย แต่ The New MU-X มาพร้อม Auto Brake Hold ระบบช่วยหยุดรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้ และปลดเบรกอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง รถติดแต่ไหนก็ไม่ต้องกลัวเมื่อยอีกต่อไป


        4. ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
        ไฟหน้าถือเป็นอุปกรณ์พื้นฐานเพื่อความปลอดภัย ไฟหน้าของ The New MU-X มาพร้อมเทคโนโลยี Bi-LED ส่องสว่างได้ไกลและกว้าง พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติมาให้อีกด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มทัศนะวิสัยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเวลาลงอุโมงค์ หรือ เข้าที่จอดรถใต้อาคาร เพราะคนส่วนใหญ่มักมองข้ามที่จะเปิดไฟหน้ารถกันในสถานการณ์แบบนี้


        5. ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensing Wiper)
        ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ ทำให้ไม่ต้องคอยพะวงกับการเปิด-ปิดและการปรับความเร็วของระบบปัดน้ำฝน ทำให้เราโฟกัสกับการขับขี่ได้ดีขึ้น แถมใบปัดของ The New MU-X ยังเป็นแบบ Integrated Wiper Blade ระบบฉีดนํ้าบนก้านปัดแบบ Blade Type สะอาดหมดจด และไม่บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ เพิ่มความปลอดภัยขึ้นอีกด้วย

        6. กล้องมองหลังและเซนเซอร์รอบคัน
        ปัจจุบันรถมีขนาดใหญ่ขึ้น มีพื้นที่โดยสารกว้างขวางขึ้น กล้องมองหลังและเซนเซอร์รอบคัน จะช่วยให้เราขับรถและจอดรถได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น โดย The New MU-X มีกล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะที่เลี้ยวตามการเลี้ยวของพวงมาลัย แถมยังมีเซนเซอร์รอบคันถึง 8 จุดอีกด้วย


        7. Apple CarPlay และ Android Auto
        ระบบ Infotainment ในรถทำให้เราขับได้อย่างเพลิดเพลินมากขึ้น ยิ่งสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนรู้ใจของเราแล้วละก็ จะขับไกลแค่ไหนก็ไม่เหนื่อย The New MU-X มีหน้าจอ Infotainment Display ขนาดใหญ่ถึง 9 นิ้ว ความละเอียดขนาด HD สามารถเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto ได้อย่างง่ายดาย


        8. เบาะนั่งแสนสบาย
        The New MU-X มาพร้อมเบาะนั่งดีไซน์โอบกระชับ พร้อมเทคโนโลยี COOLMAX ช่วยลดการสะสมความร้อน มีเทคโนโลยี AVEC (Anti Vibration Elastic Comfort) ซับแรงสั่นสะเทือน ลดความเมื่อยล้าในเบาะคู่หน้า และยังสบายกว่าด้วยระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตําแหน่งที่นั่งคนขับและ 4 ทิศทางสำหรับที่นั่งข้างคนขับ


        9. Remote Engine Start
        หากจอดรถตากแดดนานๆ บากครั้งกว่าจะระบายความร้อนภายในห้องโดยสารก็ต้อใช้เวลาพอสมควร The New MU-X มาพร้อมฟังก์ชัน Remote Engine Start สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมทในระยะ 20 เมตร แถมยังเปิดเครื่องปรับอากาศในห้องโดยสารให้เย็นสบายอีกด้วย (ในกรณีที่ดับเครื่องโดยไม่ปิดเครื่องปรับอากาศ)

 

        ฟีเจอร์ต่างๆ ที่กล่าวมานี้ ไม่ใช่อุปกรณ์พื้นฐานในรถทุกรุ่นทุกยี่ห้อ แต่กับ The NEW MU-X เราจัดหนักจัดเต็มมาให้ครบ จะซื้อรถทั้งทีฟีเจอร์เหล่านี้ก็จะช่วยให้ใช้รถได้อย่างสะดวกสบายและความปลอดภัยมากขึ้น รู้แล้วก็อย่าลืมชวนเพื่อนๆ มาซื้อ The NEW MU-X กันเยอะๆ นะครับ