Care for Your Car อาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ

เรื่องของยาง

 

        ไม่ว่ารถยนต์ที่คุณขับจะมีพละกำลังของเครื่องยนต์กี่ร้อยแรงม้า ไม่ว่าจะมีระบบเบรกที่ทรงประสิทธิภาพแค่ไหน ไม่ว่าจะมีระบบซึมซับแรงสั่นสะเทือนดีเพียงใด ไม่ว่าจะมีการทรงตัวที่ดีเยี่ยมขนาดไหนก็ตาม แต่ประสิทธิภาพของทุกสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ล้วนแล้วแต่ต้องถ่ายทอดผ่านไปที่ยางติดล้อทุกเส้นด้วยกันทั้งสิ้น และยางแต่ละเส้นจะมีพื้นที่สัมผัสกับพื้นถนน อยู่ที่ประมาณหนึ่งตารางฟุตต่อเส้นเท่านั้น หากยางมีคุณภาพต่ำหรือมีแรงดันลมในยางที่ไม่เหมาะสม สมรรถนะและประสิทธิภาพของทุกสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดก็จะด้อยลงไปด้วยเช่นกัน

 

          ดังนั้นจะเห็นได้ว่ายางมีความสำคัญต่อการใช้รถเป็นอย่างมาก ผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายนอกจากจะต้องมีการออกแบบในเรื่องของประสิทธิภาพ, สมรรถนะ และความทนทานของเครื่องยนต์ รวมไปถึงออกแบบตัวถังภายนอกให้สวยงามสะดุดตา ออกแบบภายในห้องโดยสาร ให้ผู้ขับและผู้โดยสารมีความปลอดภัย และได้รับความสะดวกสบายแล้ว ยังต้องคำนึงถึงยางที่จะต้องถูกนำมาใช้กับรถยนต์ที่เขาออกแบบและผลิต เพื่อให้ได้สมรรถนะและประสิทธิภาพที่เหมาะสมตามที่ต้องการอีกด้วย
          ในขณะเดียวกันกลับมีผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์จำนวนไม่น้อย ที่นำรถไปปรับเปลี่ยนยางทันทีเมื่อได้รับรถยนต์คันใหม่ โดยมักจะคิดถึงกันแต่ในแง่ของความงดงาม หรือบางคนเมื่อใช้รถยนต์ไปจนถึงรอบที่ต้องเปลี่ยนยางชุดใหม่ ก็จะคำนึงถึงแต่เรื่องของราคายางเป็นอันดับแรก โดยหารู้ไม่ว่าหากเลือกยางผิดขนาดแม้แต่เพียงนิดเดียว ก็จะทำให้รถยนต์ที่ขับอยู่นั้นมีสมรรถนะและประสิทธิภาพที่เปลี่ยนแปลงไป ตัวอย่างเช่นเมื่อนำรถไปปรับเปลี่ยนยาง เป็นแบบที่มีความกว้างของหน้ายางมากขึ้น นั่นย่อมหมายความว่ายางทั้งสี่เส้นต้องมีน้ำหนักรวมกันมากขึ้น เป็นภาระต่อระบบบังคับเลี้ยวและระบบซึมซับแรงสั่นสะเทือนมากขึ้น

 

          หรือเพียงแค่การเติมลมยางที่ถูกปรับเปลี่ยนไป ก็ส่งผลกระทบออกไปได้หลายแง่มุม เช่นหากมีการปรับลมยางให้แข็งมากขึ้น ตัวรถก็จะมีความกระเทือนส่งไปยังห้องโดยสารมากขึ้น หรือการที่ปล่อยให้แรงดันลมภายในยางน้อยลงไป ก็จะทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานมากขึ้น หรือเท่ากับกินน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น การเปลี่ยนยางที่มีลายดอกยางเป็นก้อนๆ มีร่องดอกยางกว้างๆ ก็จะทำให้เกิดการยึดเกาะถนนลดน้อยลง และมีเสียงดังรบกวนเมื่อต้องวิ่งบนถนนราดยางหรือบนถนนคอนกรีต และในทางตรงกันข้ามหากเปลี่ยนยางให้เป็นชนิดที่มีลายดอกยางละเอียด มีร่องดอกยางเล็กๆ เมื่อนำรถไปวิ่งบนทางที่เป็นลูกรังหรือทางดิน ก็จะมีเศษดินหรือเศษลูกรังและหิน เข้าไปอัดยัดอยู่ตามร่องดอกยาง ทำให้หน้ายางช้ำและเกิดการลื่นไถลได้ง่ายเช่นกัน
          การดูแลยางให้มีสมรรถนะและประสิทธิภาพเต็มเปี่ยมเสมอไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ตรวจวัดแรงดันลมยางสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง โดยเติมแรงดันลมยางตามที่ผู้ผลิตรถยนต์ระบุเอาไว้ที่กรอบประตูรถ และทุกครั้งเมื่อต้องเดินทางไกลหรือใช้ความเร็วสูงต่อเนื่อง ก็ให้เพิ่มแรงดันลมยางมากกว่าปรกติอีกอย่างน้อย 2 ถึง 3 ปอนด์ต่อตารางนิ้วในยางทุกเส้น และหมั่นตรวจดูสภาพการสึกหรอภายนอกของยางบ่อยๆ เช่นดูว่าการสึกที่บริเวณหน้าดอกยางนั้น เป็นการสึกที่สม่ำเสมอกันหรือไม่ หากพบว่ามีการสึกที่บริเวณหน้าดอกยางเป็นจ้ำๆ ก็ให้รีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบระบบช่วงล่างทันที
          ในส่วนของแก้มยางนั้นถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นทุกครั้งที่ต้องจอดรถชิดกับขอบถนน ที่เป็นบาทวิถียกระดับสูงขึ้นมา ต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้แก้มยางไปเบียดกับขอบบาทวิถี เพราะจะทำให้เนื้อยางบริเวณแก้มยางถูกเฉือนหายไป ส่งผลให้แก้มยางมีความแข็งแรงน้อยลง จนอาจจะเกิดการระเบิดเมื่อใช้งานได้ ยางที่มีเนื้อยางบริเวณแก้มยางหายไป หรือมีรอยบาดแผลถูกของมีคมกรีดที่บริเวณแก้มยาง ไม่ควรนำมาใช้งานเป็นยางประจำล้อ ให้ทำการเปลี่ยนใหม่เพื่อความปลอดภัยของท่านเอง

 

          ทุกครั้งที่ตรวจดูสภาพของยาง หากพบว่ามีเศษก้อนหินหรือเศษวัสดุอื่นๆติดอยู่ในร่องดอกยาง ให้แคะทิ้งออกไปให้หมด เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ เมื่อรถวิ่งไปและน้ำหนักรถกดทับลงไปตรงบริเวณดังกล่าว เศษก้อนหินเล็กๆหรือเศษวัสดุเหล่านั้น ก็จะถูกกดลงไปฝังบนเนื้อยาง จนอาจจะทำให้ยางรั่วขึ้นมาได้ เมื่อยางเกิดรั่วขึ้นมาด้วยเหตุใดก็ดี ต้องนำยางไปให้ผู้ที่มีความรู้และความชำนาญ ทำการปะยางให้อย่างถูกต้องตามวิธีการ และเมื่อมีการล้างทำความสะอาดรถทุกครั้ง ต้องระมัดระวังการใช้น้ำยาหรือสารเคมี ที่ใช้เช็ดถูให้ยางเป็นสีดำขลับงดงาม อย่าให้ไปโดนบริเวณหน้ายางหรือบริเวณดอกยางได้ เพราะสารเคมีนั้นๆอาจจะทำให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนของยางลดลงได้
          เมื่อได้รู้ถึงความสำคัญของยางที่มีต่อรถเช่นนี้แล้ว การที่จะตัดสินใจเปลี่ยนยางแต่ละครั้ง จึงต้องไตร่ตรองให้รอบคอบว่าไม่ทำให้สมรรถนะและประสิทธิภาพของรถยนต์ลดน้อยลง วิธีการตัดสินใจที่ง่ายที่สุด คือเปลี่ยนยางให้เป็นไปตามประเภท, ขนาด และ ยี่ห้อเดียวกันกับที่ติดรถยนต์ออกมาจากโรงงานผู้ผลิต เพราะดังที่ได้บอกมาในเบื้องต้นแล้วว่า วิศวกรของผู้ผลิตรถยนต์ล้วนแต่ต้องคำนวนมาเป็นอย่างดีแล้ว ว่ายางรถยนต์แบบไหน,ลายดอกอย่างไร ที่เมื่อนำมาประกอบกับรถยนต์ของเขา แล้วจะไม่ทำให้สมรรถนะและประสิทธิภาพของรถยนต์ที่เขาผลิตออกมานั้นด้อยลงไป

        หรือวิธีการที่ดีที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือ นำรถยนต์เข้าไปใช้บริการเปลี่ยนยางชุดใหม่ ที่ศูนย์บริการรถยนต์ของผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพราะจะได้รับการบริการที่ตรงกับมาตรฐานของโรงงานผู้ผลิตอย่างแน่นอน
        โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์ อีซูซุ มิวเอ็กซ์ ทุกท่าน หากท่านนำรถเข้าไปรับการบริการเปลี่ยนยาง 4 เส้น โดยทั้ง 4 เส้นเป็นยางบริดจสโตนในรุ่นที่เข้าร่วมรายการพิเศษ ท่านจะได้รับส่วนลดทันทีเป็นจำนวนเงิน 2,200 บาท ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พศ.2565 ครับ